ผู้สมัครงาน
Chat GPT ช่วยงาน HR ได้หลายอย่าง แต่ก็มีส่วนที่ต้องระวัง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการนำไปใช้ทำงานสิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือ ข้อดี ข้อเสีย และเทคนิคการป้อนคำสั่งเพื่อให้ได้คำตอบที่สมบูรณ์ที่สุด
Chat GPT มีข้อดีข้อเสียและเทคนิคการป้อนคำสั่งยังไงบ้าง HR Buddy มีข้อมูลมาฝากชาว HR มืออาชีพค่ะ
ข้อดีของการใช้ ChatGPT วางแผนงาน HR
1 ประหยัดเวลา: ChatGPT สามารถช่วยตอบคำถามพื้นฐานและให้ข้อมูลเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูลเอง
2 เข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา: สามารถใช้งานได้ทุกเวลาตามที่ต้องการ ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาในการขอคำแนะนำหรือข้อมูล
3 ความหลากหลายของข้อมูล: ChatGPT สามารถให้ข้อมูลในหลายด้านของงาน HR เช่น การจัดการทรัพยากรมนุษย์, การวางแผนฝึกอบรม และการพัฒนาบุคลากร
4 เพิ่มประสิทธิภาพ: ช่วยลดความซับซ้อนของงานบางอย่าง ทำให้สามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีความสำคัญมากขึ้นได้
5 การปรับแต่งคำตอบ: สามารถปรับแต่งคำตอบให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้งานได้
ข้อเสียของการใช้ ChatGPT วางแผนงาน HR
1 ข้อจำกัดในความเข้าใจเชิงบริบท: อาจไม่สามารถเข้าใจบริบทเฉพาะเจาะจงหรือความซับซ้อนของบางสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง
2 ขาดความคิดสร้างสรรค์เฉพาะบุคคล: ไม่สามารถให้คำแนะนำที่มีความคิดสร้างสรรค์หรือมีความเฉพาะเจาะจงเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญในงาน HR จริง ๆ ได้
3 ความแม่นยำของข้อมูล: ข้อมูลบางส่วนอาจไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ เราต้องนำมาตรวจสอบและปรับแก้ไขให้ถูกต้องด้วยนะคะ
4 ความไม่สมบูรณ์ของการตอบคำถาม: อาจมีการให้คำตอบที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่ตรงประเด็นในบางครั้ง
5 ข้อจำกัดในด้านอารมณ์และปฏิสัมพันธ์: ไม่สามารถรับรู้และตอบสนองต่ออารมณ์หรือความรู้สึกของผู้ใช้งานได้เหมือนกับการสื่อสารกับคน
6 ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: ข้อมูลที่สำคัญหรือเป็นความลับอาจมีความเสี่ยงในการถูกเปิดเผยหรือใช้ผิดวัตถุประสงค์
ทั้งนี้ การใช้ ChatGPT เพื่อวางแผนงาน HR สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำของคำตอบได้ด้วยการใช้เทคนิคการป้อนคำสั่งที่เหมาะสม
เทคนิคการป้อนคำสั่ง ChatGPT (ปล. แนะนำ Chat GPT4o นะคะ)
1 ระบุคำถามอย่างชัดเจน: ใช้ภาษาที่ชัดเจนและเจาะจงในคำถาม เพื่อให้ ChatGPT เข้าใจและให้คำตอบที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
- ตัวอย่าง "ขอคำแนะนำในการวางแผนการฝึกอบรมพนักงานใหม่ในบริษัทขนาดเล็ก"
2 ให้ข้อมูลพื้นฐาน: ระบุข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ ChatGPT เข้าใจบริบท
- ตัวอย่าง "บริษัทของเรามีพนักงานประมาณ 50 คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งจบการศึกษา"
3 ระบุขอบเขตของคำถาม: จำกัดขอบเขตของคำถามเพื่อให้คำตอบมีความเฉพาะเจาะจงและลึกซึ้ง
- ตัวอย่าง "ขอแนวทางการวางแผนกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ในทีม สำหรับพนักงานแผนกการตลาด"
4 ใช้คำถามแบบละเอียด: หากต้องการคำตอบที่ครอบคลุม ควรตั้งคำถามอย่างละเอียดและเป็นขั้นตอน
- ตัวอย่าง "ขอขั้นตอนการวางแผนงานประจำปีสำหรับแผนก HR เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการ จนถึงการประเมินผล"
5 ขอข้อมูลเพิ่มเติม: หากคำตอบแรกไม่ครบถ้วน สามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือขยายความได้
- ตัวอย่าง "สามารถขยายความเกี่ยวกับวิธีการประเมินผลการฝึกอบรมพนักงานได้หรือไม่?"
6 ใช้คำถามตัวอย่าง: การให้ตัวอย่างคำถามหรือสถานการณ์จริงจะช่วยให้ ChatGPT เข้าใจความต้องการได้ดียิ่งขึ้น
- ตัวอย่าง "ตัวอย่างวิธีการประเมินประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในแผนกขายมีอะไรบ้าง?"
7 ให้คำติชมและปรับปรุง: หลังจากได้รับคำตอบแล้ว สามารถให้คำติชมและขอปรับปรุงคำตอบให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น
- ตัวอย่าง "คำตอบนี้ดีแล้ว แต่ขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดทำงบประมาณในการฝึกอบรม"
8 ใช้คำสั่งแบบชัดเจน: ใช้ประโยคที่เป็นคำสั่งชัดเจนเพื่อให้ ChatGPT เข้าใจและตอบสนองได้ถูกต้อง
- ตัวอย่าง "ช่วยเขียนนโยบายการลาพักร้อนสำหรับบริษัทขนาดเล็ก"
ตัวอย่างการใช้เทคนิคการป้อนคำสั่ง
คำถามทั่วไป: "ขอคำแนะนำในการวางแผนการฝึกอบรมพนักงาน"
คำถามที่ปรับปรุง: "ขอคำแนะนำในการวางแผนการฝึกอบรมพนักงานสำหรับบริษัทขนาดกลาง ที่มีพนักงานใหม่ 20 คน และพนักงานเก่า 30 คน เน้นการพัฒนาทักษะการใช้ซอฟต์แวร์การจัดการโครงการ"
HR ที่สนใจการใช้เทคโนโลยีช่วยทำงาน HR Buddy จะนำเทคนิคดี ๆ มาอัปเดตครั้งหน้านะคะ
สอบถามเพิ่มเติมสำหรับ HR : [email protected]
อัปเดตความรู้สำหรับคนหางาน คนทำงาน สามารถติดตามได้ที่ https://jobbkk.com/go/kr0ws
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด